Author Archives: thaichemicals

การประยุกต์ใช้ระบบบำบัดอากาศเสียแบบ Packed Tower Wet Scrubber ในโรงไฟฟ้าชีวมวล

โรงไฟฟ้าชีวมวลเป็นแหล่งพลังงานทางเลือกที่สำคัญในการลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล อย่างไรก็ตาม การเผาไหม้เชื้อเพลิงชีวมวลก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศที่ต้องได้รับการบำบัดอย่างเหมาะสม ระบบ Packed Tower Wet Scrubber เป็นเทคโนโลยีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดสารมลพิษจากอากาศเสียของโรงไฟฟ้าชีวมวล บทความนี้จะนำเสนอแนวทางการประยุกต์ใช้ระบบดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ  หลักการทำงานและส่วนประกอบหลักของระบบ Packed Tower Wet Scrubber  กลไกการดูดซับและกำจัดสารมลพิษในอากาศเสียด้วยของเหลวใน Packed Tower Wet Scrubber Packed Tower Wet Scrubber ทำงานโดยอาศัยหลักการสัมผัสระหว่างอากาศเสียกับของเหลวที่ไหลสวนทางกัน โดยมีกลไกการกำจัดสารมลพิษดังนี้  การดูดซับ (Absorption): สารมลพิษที่ละลายน้ำได้ เช่น SO2 และ HCl จะถูกดูดซับเข้าสู่ของเหลว  การควบแน่น (Condensation): ไอระเหยบางชนิดจะควบแน่นเมื่อสัมผัสกับของเหลวที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า  การชะล้าง (Impingement): อนุภาคฝุ่นละอองจะถูกชะล้างออกจากกระแสอากาศเมื่อกระทบกับหยดของเหลว  ประสิทธิภาพของการกำจัดสารมลพิษขึ้นอยู่กับพื้นที่ผิวสัมผัสระหว่างอากาศกับของเหลว เวลาในการสัมผัส และคุณสมบัติทางเคมีของของเหลวที่ใช้   ชนิดและคุณสมบัติของวัสดุตัวกลาง (Packing Material) ที่ใช้ใน Packed Tower Wet Scrubber วัสดุตัวกลางในหอสครับเบอร์มีหน้าที่เพิ่มพื้นที่ผิวสัมผัสระหว่างอากาศเสียกับของเหลว โดยทั่วไปแบ่งเป็น 2 ประเภท  […]

แนวทางการออกแบบระบบบำบัดอากาศเสียจากห้องเคลือบสีในอุตสาหกรรมยานยนต์

อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีการใช้สารเคมีและสีในปริมาณมาก โดยเฉพาะในกระบวนการเคลือบสีตัวถังรถยนต์ ซึ่งก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศที่ต้องได้รับการบำบัดอย่างเหมาะสมก่อนปล่อยสู่สิ่งแวดล้อม การออกแบบระบบบำบัดอากาศเสียที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรมนี้  การวิเคราะห์ลักษณะและปริมาณของสารมลพิษในอากาศเสียจากห้องเคลือบสียานยนต์  การระบุชนิดและปริมาณของสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ที่เกิดจากสีและตัวทำละลายในกระบวนการเคลือบสี  ในกระบวนการเคลือบสียานยนต์ มีการใช้สารเคมีหลายชนิดที่ก่อให้เกิดสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ซึ่งเป็นมลพิษทางอากาศที่สำคัญ การระบุชนิดและปริมาณของ VOCs เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการออกแบบระบบบำบัดอากาศเสีย โดยทั่วไป VOCs ที่พบในห้องเคลือบสียานยนต์ ได้แก่ โทลูอีน (Toluene), ไซลีน (Xylene), เอทิลเบนซีน (Ethylbenzene), บิวทิลอะซีเตท (Butyl acetate), เมทิลเอทิลคีโตน (Methyl ethyl ketone)  การตรวจวัดปริมาณ VOCs สามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์แบบต่างๆ เช่น Gas Chromatography-Mass Spectrometry (GC-MS) หรือ Flame Ionization Detector (FID) โดยควรทำการตรวจวัดในหลายจุดของห้องเคลือบสีและในช่วงเวลาที่แตกต่างกันเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมและเป็นตัวแทนที่ดีของสภาพการทำงานจริง  การตรวจวัดขนาดและความเข้มข้นของฝุ่นละอองสีที่ฟุ้งกระจายในอากาศเสีย  นอกจาก VOCs แล้ว ฝุ่นละอองสีที่เกิดจากการพ่นสีก็เป็นมลพิษอีกชนิดหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญ การตรวจวัดขนาดและความเข้มข้นของฝุ่นละอองสีสามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือเก็บตัวอย่างอากาศแบบ High Volume Air […]

การออกแบบและติดตั้ง “Wet Scrubber” สำหรับระบบบำบัดไอเสียจากเตาเผาขยะอันตราย

เตาเผาขยะอันตรายเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศที่สำคัญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมหากไม่มีการบำบัดอย่างเหมาะสม “Wet Scrubber” เป็นเทคโนโลยีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดสารมลพิษหลากหลายชนิดจากไอเสียเตาเผาขยะอันตราย การออกแบบและติดตั้ง “Wet Scrubber” ที่เหมาะสมจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้ระบบบำบัดไอเสียที่มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัย   การเลือกชนิดและออกแบบ “Wet Scrubber” ให้เหมาะสมกับไอเสียจากเตาเผาขยะอันตราย  การเปรียบเทียบข้อดีและข้อจำกัดของ Wet Scrubber แต่ละประเภท  “Wet Scrubber” มีหลายประเภท แต่ละประเภทมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกัน  Packed Tower Scrubber: เหมาะสำหรับการกำจัดก๊าซที่ละลายน้ำได้ดี เช่น HCl, SO2  Venturi Scrubber: มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดฝุ่นละอองและละอองกรด  Ionizing Wet Scrubber: เหมาะสำหรับการกำจัดอนุภาคขนาดเล็กและสารอินทรีย์ระเหยง่าย  สำหรับเตาเผาขยะอันตราย อาจจำเป็นต้องใช้ “Wet Scrubber” หลายประเภทร่วมกันเพื่อให้ครอบคลุมสารมลพิษทุกชนิด  การคำนวณขนาดและกำลังการบำบัดของ “Wet Scrubber”  การคำนวณขนาดของ “Wet Scrubber” ต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น  อัตราการไหลของก๊าซ  ความเข้มข้นของสารมลพิษแต่ละชนิด  ประสิทธิภาพการกำจัดที่ต้องการ  เวลาสัมผัสระหว่างก๊าซกับของเหลว  นอกจากนี้ […]

การเลือกใช้ “Bag Filter” ที่เหมาะสมสำหรับระบบดักฝุ่นในโรงงานผลิตปูนซีเมนต์

โรงงานผลิตปูนซีเมนต์เป็นแหล่งกำเนิดฝุ่นละอองที่สำคัญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของชุมชนโดยรอบหากไม่มีการจัดการที่เหมาะสม ระบบดักฝุ่นแบบถุงกรอง “Bag Filter” เป็นเทคโนโลยีที่นิยมใช้ในการควบคุมการปล่อยฝุ่นจากโรงงานปูนซีเมนต์ เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงในการดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ “Bag Filter” ที่เหมาะสมจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้ระบบดักฝุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงและคุ้มค่าต่อการลงทุน   ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกใช้ “Bag Filter” สำหรับโรงงานผลิตปูนซีเมนต์  ลักษณะและปริมาณของฝุ่นที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์  ในกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์ มีการเกิดฝุ่นในหลายขั้นตอน ตั้งแต่การบดวัตถุดิบ การเผาในหม้อเผา การบดปูนเม็ด ไปจนถึงการขนถ่ายและบรรจุผลิตภัณฑ์ ฝุ่นที่เกิดขึ้นมีขนาดและปริมาณที่แตกต่างกันในแต่ละขั้นตอน เช่น ฝุ่นจากการบดวัตถุดิบมักมีขนาดใหญ่กว่าฝุ่นจากการบดปูนเม็ด ในขณะที่ปริมาณฝุ่นจากหม้อเผามักมีมากกว่าฝุ่นจากการบรรจุผลิตภัณฑ์ การเข้าใจลักษณะและปริมาณฝุ่นในแต่ละจุดของกระบวนการผลิตจะช่วยในการเลือกขนาดและประเภทของ “Bag Filter” ที่เหมาะสม   สมบัติทางกายภาพและเคมีของฝุ่นปูนซีเมนต์ที่มีผลต่อประสิทธิภาพการกรอง  ฝุ่นปูนซีเมนต์มีสมบัติเฉพาะที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการกรอง เช่น ความเป็นด่างสูง ความสามารถในการดูดซับความชื้น และการเกาะตัวกันเองของอนุภาคฝุ่น สมบัติเหล่านี้อาจทำให้เกิดการอุดตันของถุงกรองได้ง่าย หรืออาจทำให้ถุงกรองเสื่อมสภาพเร็วขึ้น นอกจากนี้ อุณหภูมิของก๊าซที่มีฝุ่นปนเปื้อนก็เป็นปัจจัยสำคัญ โดยเฉพาะในบริเวณหม้อเผาที่อาจมีอุณหภูมิสูงถึง 400-450 องศาเซลเซียส ซึ่งต้องเลือกใช้วัสดุถุงกรองที่ทนความร้อนสูงได้  มาตรฐานคุณภาพอากาศและข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการระบายฝุ่นจากโรงงานผลิตปูนซีเมนต์  การเลือกใช้ “Bag Filter” ต้องคำนึงถึงมาตรฐานคุณภาพอากาศและข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่ามาตรฐานการปล่อยฝุ่นละอองรวม (Total […]

ข้อพิจารณาในการเลือกใช้งานเคลือบพื้นผิวด้วยไฟเบอร์ (FRP Lining) สำหรับถังบรรจุสารเคมี

ในอุตสาหกรรมเคมีและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง มักมีการใช้ถังบรรจุสารเคมีที่มีความกัดกร่อนสูง เช่น กรด ด่าง หรือสารละลายเกลือ ซึ่งอาจทำให้ถังบรรจุที่ทำจากโลหะเกิดการกัดกร่อนและเสื่อมสภาพได้อย่างรวดเร็ว การเลือกใช้ FRP Lining เป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยปกป้องถังบรรจุจากการกัดกร่อนและยืดอายุการใช้งานได้ อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ “FRP Lining” ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้ คุณสมบัติทางเคมีและกายภาพของสารเคมีที่บรรจุในถัง คุณสมบัติของสารเคมีที่บรรจุในถังเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้ “FRP Lining” ที่เหมาะสม โดยต้องพิจารณาทั้งความเป็นกรดหรือด่าง ความเข้มข้น อุณหภูมิ และความดันของสารเคมีในสภาวะการใช้งาน สารเคมีที่มีความเป็นกรดหรือด่างสูง เช่น กรดไฮโดรคลอริกหรือโซเดียมไฮดรอกไซด์ อาจต้องใช้ “FRP Lining” ที่มีความต้านทานต่อการกัดกร่อนสูงเป็นพิเศษ เช่น ไวนิลเอสเตอร์หรืออีพอกซี่เรซิน นอกจากนี้ อุณหภูมิและความดันของสารเคมีที่สูงก็อาจส่งผลต่อความทนทานต่อการเคลือบได้ จึงต้องเลือกใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับสภาวะการใช้งานจริง นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณาถึงการเกิดปฏิกิริยาเคมีหรือการตกผลึกของสารเคมีที่อาจเกิดขึ้นภายในถัง ซึ่งอาจส่งผลต่อการยึดเกาะและความทนทานของงานเคลือบในระยะยาวได้ การเลือกวัสดุและความหนาของการเคลือบที่เหมาะสม “FRP Lining” ประกอบด้วยเรซินและเส้นใยแก้วที่ถูกขึ้นรูปให้มีความหนาและแข็งแรง เพื่อปกป้องผิวโลหะของถังจากการกัดกร่อน การเลือกชนิดของเรซินและเส้นใยให้เหมาะสมกับสารเคมีที่บรรจุในถังจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เรซินที่นิยมใช้ในการเคลือบ ได้แก่ โพลีเอสเตอร์ ไวนิลเอสเตอร์ อีพอกซี่ และฟูแรน โดยเรซินแต่ละชนิดมีความต้านทานต่อสารเคมีและอุณหภูมิที่แตกต่างกัน […]

“Wet Scrubber” สำหรับบำบัดอากาศเสียในโรงงานอุตสาหกรรม

ในโรงงานอุตสาหกรรม มักมีสารเคมีที่เกิดจากกระบวนการผลิต ซึ่งสารเหล่านี้สามารถก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศและเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานและชุมชนใกล้เคียงได้ “Wet Scrubber” เป็นเทคโนโลยีหนึ่งที่นิยมใช้ในการบำบัดอากาศเสีย จากอากาศที่ปล่อยออกจากโรงงาน โดยอาศัยหลักการทำงานจากการสัมผัสกันระหว่างอากาศเสียกับน้ำหรือสารละลายเคมี เพื่อให้ได้อากาศที่สะอาดและปลอดภัยก่อนปล่อยสู่บรรยากาศ การเลือกชนิดของ “Wet Scrubber” ให้เหมาะสมกับสารเคมีที่เข้ามาในระบบ “Wet Scrubber” มีหลายชนิด แต่ละชนิดมีความเหมาะสมกับอากาศเสียที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติ เช่น ความสามารถในการละลายน้ำ ความดันไอ และความเข้มข้น เพื่อเลือกชนิดของ Wet Scrubber ที่เหมาะสมที่สุด ดังนี้ 1. Packed Bed Scrubber – เหมาะสำหรับอากาศเสียที่มีสารมลพิษละลายน้ำได้ดี เช่น แอลกอฮอล์ คีโตน กรดอินทรีย์ และไซยาไนด์ – อาศัยหลักการสัมผัสระหว่างอากาศเสียกับของเหลวที่ไหลผ่านตัวกลาง (Packing Media) เช่น Raschig Rings, Berl Saddles หรือ Pall Rings ซึ่งมีพื้นที่ผิวจำเพาะสูง ทำให้เกิดการถ่ายเทมวลของสารมลพิษจากอากาศสู่ของเหลวได้มาก – มีประสิทธิภาพการบำบัดสูง สามารถกำจัดสารมลพิษได้มากกว่า […]

การใช้ “ถังไฟเบอร์กลาส” (FRP Tank) ในการจัดเก็บสารเคมี

ในอุตสาหกรรมหลายประเภท เช่น อุตสาหกรรมเคมี อุตสาหกรรมชุบโลหะ และอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษ มักมีน้ำที่มีการปนเปื้อนสารเคมี ที่มีความเป็นกรดสูงเกิดขึ้นจากกระบวนการผลิต การใช้ “ถังไฟเบอร์กลาส” (FRP Tank) ในการจัดเก็บที่มีความเป็นกรดสูงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่เหมาะสมหลายประการ ดังนี้ ข้อดีของการใช้ “ถังไฟเบอร์กลาส” มีความทนทานต่อการกัดกร่อนสารเคมีได้ดีกว่าถังที่ทำจากวัสดุอื่น เช่น คอนกรีตหรือโลหะ เนื่องจากไฟเบอร์กลาสมีความเฉื่อยทางเคมีสูง จึงสามารถทนต่อการกัดกร่อนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักเบากว่าถังโลหะ ทำให้สามารถติดตั้งและเคลื่อนย้ายได้ง่ายกว่า ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและบำรุงรักษา อีกทั้ง “ถังไฟเบอร์กลาส” ยังมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าถังที่ทำจากวัสดุอื่น โดยสามารถใช้งานได้นานกว่า 20 ปี หากได้รับการดูแลรักษาที่เหมาะสม จึงช่วยลดต้นทุนในการเปลี่ยนถังใหม่ ข้อพิจารณาในการออกแบบและเลือกใช้ “ถังไฟเบอร์กลาส” การออกแบบและเลือกใช้ “FRP Tank” ให้เหมาะสมกับสารเคมีที่จะนำมาบรรจุ ต้องพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ระดับความเป็นกรดของสารเคมี และพื้นที่ในการติดตั้ง สำหรับสารเคมีที่มีความเป็นกรดสูง (สามารถตรวจสอบจากตาราง Chemical Resistance) ควรเลือกใช้ “FRP Tank” ที่ผลิตจากเรซินไวนิลเอสเตอร์ เนื่องจากมีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูงกว่าเรซินทั่วไป และควรเลือกความหนาผนังของถังให้เหมาะสมกับความเข้มข้นของสารเคมี นอกจากนี้ รูปทรงและขนาดของ “ถังไฟเบอร์กลาส” […]

การบำรุงรักษาและยืดอายุการใช้งานของ “Wet Scrubber” ในระบบบำบัดอากาศเสีย

เพื่อให้ “Wet Scrubber” ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน จำเป็นต้องมีการบำรุงรักษาและยืดอายุการใช้งานอย่างเหมาะสม ต่อไปนี้เป็นเทคนิคที่สำคัญในการบำรุงรักษาและใช้งาน “Wet Scrubber” ในระบบบำบัดอากาศเสีย 1. ตรวจสอบและทำความสะอาดอุปกรณ์ “Wet Scrubber” อย่างสม่ำเสมอ ควรทำความสะอาดอุปกรณ์หลักของ “Wet Scrubber” เช่น หัวฉีด ท่อ และถังเก็บของเหลว อย่างน้อยทุก 3-6 เดือน เพื่อกำจัดตะกรันและสิ่งสกปรกที่สะสม นอกจากนี้ ควรตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ประกอบ เช่น ปั๊ม วาล์ว และระบบควบคุม เป็นประจำ เพื่อให้สามารถระบุและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที ซึ่งจะช่วยป้องกันการหยุดชะงักของระบบและยืดอายุการใช้งานของ “Wet Scrubber” 2. เลือกใช้วัสดุและอะไหล่ “Wet Scrubber” ที่มีคุณภาพ เนื่องจาก “Wet Scrubber” ต้องสัมผัสกับสารเคมีและสภาวะแวดล้อมที่รุนแรง จึงควรเลือกใช้วัสดุที่ทนต่อการกัดกร่อนชิ้นส่วนสำคัญ เช่น สแตนเลสสตีล หรือพลาสติกทนสารเคมี นอกจากนี้ ควรใช้อะไหล่ของแท้หรืออะไหล่ที่ได้รับการรับรองจากผู้ผลิต เพื่อให้มั่นใจได้ว่ามีคุณภาพและความเข้ากันได้กับระบบ “Wet Scrubber” การใช้อะไหล่ที่ไม่ได้มาตรฐานอาจนำไปสู่การเสื่อมสภาพหรือความเสียหายของอุปกรณ์ได้อย่างรวดเร็ว […]

“FRP lining” และการประยุกต์ใช้ในงานเคลือบผิวและงานโครงสร้างต่างๆ

Fiber Reinforced Plastic (FRP) lining เป็นวัสดุคอมโพสิตที่ผลิตจากการผสมผสานระหว่างเรซินโพลิเมอร์และเส้นใยแก้วหรือเส้นใยอื่นๆ เพื่อสร้างวัสดุที่มีคุณสมบัติเด่น เช่น ความแข็งแรง ความเหนียว และความต้านทานต่อสารเคมี “FRP lining” ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในงานเคลือบผิวและงานโครงสร้างต่างๆ เพื่อปกป้ององค์ประกอบโครงสร้างจากการกัดกร่อนและการสึกหรอ รวมถึงเพิ่มความแข็งแรงและอายุการใช้งานของโครงสร้าง องค์ประกอบและคุณสมบัติของ “FRP lining” “FRP lining” ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 2 ส่วน ได้แก่ เรซินโพลิเมอร์ที่ทำหน้าที่เป็นเนื้อวัสดุเชื่อมประสานและเส้นใยแก้วหรือเส้นใยอื่นๆ ที่ทำหน้าที่เป็นวัสดุเสริมแรง โดยเรซินโพลิเมอร์ที่นิยมใช้ในการผลิต “FRP lining” ได้แก่ อีพ็อกซี่เรซิน โพลีเอสเตอร์เรซิน และไวนิลเอสเตอร์เรซิน เนื่องจากมีคุณสมบัติที่เหมาะสม เช่น ความต้านทานต่อสารเคมี ความทนทานต่อการสึกหรอ และความสามารถในการยึดเกาะที่ดี ส่วนเส้นใยแก้วที่นิยมใช้ ได้แก่ E-glass และ S-glass เนื่องจากมีความแข็งแรงและความเหนียวสูง ทนต่อการดึงยืดและการกระแทกได้ดี นอกจากนี้ยังมีการใช้เส้นใยชนิดอื่นๆ เช่น เส้นใยคาร์บอน และเส้นใยอะรามิด เพื่อเพิ่มคุณสมบัติเฉพาะด้านให้กับ “FRP lining” กระบวนการผลิตและขึ้นรูป “FRP […]

ข้อดีของการใช้ “Filter Bag” ในการกำจัดฝุ่นละอองและสารมลพิษในอากาศ

“Filter Bag” เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการกำจัดฝุ่นละอองและสารมลพิษในอากาศที่เกิดจากกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า และอุตสาหกรรมปิโตรเคมี “Filter Bag” มีข้อดีหลายประการที่ทำให้เป็นทางเลือกที่นิยมใช้ในการควบคุมมลพิษทางอากาศ ดังนี้ ประสิทธิภาพในการกรองสูง “Filter Bag” มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นละอองและสารมลพิษในอากาศสูงมาก โดยสามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 0.1 ไมครอน ซึ่งเล็กกว่าขนาดของฝุ่นละอองทั่วไปที่มีขนาดประมาณ 1-100 ไมครอน “Filter Bag” สามารถกรองฝุ่นละอองและสารมลพิษได้หลากหลายชนิด เช่น ฝุ่นละอองของแข็ง ควัน ละอองน้ำมัน และไอระเหยของสารเคมี โดยมีประสิทธิภาพการกรองโดยทั่วไปอยู่ที่ 99% หรือสูงกว่า ขึ้นอยู่กับชนิดของ “Filter Bag” ที่ใช้และสภาวะการใช้งาน การบำรุงรักษาและการใช้งานง่าย “Filter Bag” มีการออกแบบที่เรียบง่ายและใช้งานได้ง่าย โดยส่วนประกอบหลักของ “Filter Bag” ได้แก่ ถุงกรอง ซึ่งทำจากวัสดุที่มีรูพรุนขนาดเล็กและมีพื้นที่ผิวสูง เพื่อดักจับฝุ่นละอองและสารมลพิษ และโครงสร้างที่ใช้ในการยึดถุงกรอง การเปลี่ยนถุงกรองเมื่อหมดอายุการใช้งานสามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องหยุดระบบการผลิต นอกจากนี้ “Filter Bag” ยังมีระบบการทำความสะอาดถุงกรองอัตโนมัติ เช่น […]